Application name
รายการพรรณไม้
รายงาน
การตั้งค่า
แก้ไขข้อมูลพรรณไม้
รหัส
ชื่อวิทยาศาสตร์
<p><em>Acanthus ebracteatus</em> Vahl</p>
สกุล
สปีชีส์
Variety
Sub Variety
Form
ชื่อพ้อง / ชื่อดั้งเดิม
<p><em>Acanthus</em> <em>ilicifolius</em> var. <em>ebracteatus</em> (Vahl) Benoist</p><p><em>Dilivaria</em> <em>ebracteata</em> (Vahl) Pers.</p>
ชื่อไทย
ชื่อท้องถิ่น
ชื่อสามัญ
ชื่อวงศ์
ลักษณะวิสัย
ยังไม่ได้ระบุ
ไม้ล้มลุก
ไม้พุ่ม
ไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก
ไม้ยืนต้น ขนาดกลาง
ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่
ไม้เลื้อย
ไม้รอเลื้อย
ไม้อิงอาศัย
ไม้หัว
พืชอวบน้ำ
ปาล์ม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
<p><strong>ต้น: </strong>ไม้พุ่มล้มลุกขนาดเล็ก สูง 0.5-1 เมตร <strong>ลำต้น</strong>กลม กลวง ตั้งตรง สีขาวอมเขียว มีหนามตามข้อ ข้อละ 4 หนาม และที่ปลายใบ ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร </p><p><strong>ใบ:</strong> ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ใบรูปหอกยาว ขอบจักเว้ากว้างๆ ปลายจักแหลมคล้ายหนาม แต่บางครั้งอาจพบใบเรียบ กว้าง 3-7 ซม. ยาว 10-20 ซม. แผ่นใบสีเขียวเข้ม เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแนวก้างปลา มีหนามรอบใบ แผ่นใบเรียบเป็นมันลื่น เนื้อใบเหนียว ก้านใบสั้น </p><p><strong>ดอก:</strong> ดอกออกเป็นช่อตั้งสีขาว บริเวณปลายยอด ยาวประมาณ 4-6 นิ้ว ใบประกอบห่อเป็นช่อตั้ง แต่ละดอกมีใบประดับรูปเรียว 2 อัน รองรับที่โคนดอก และติดอยู่จนดอกบาน กลีบดอกเป็นท่อปลายบานโตสีขาว ยาว 2-4 เซนติเมตร แบ่งเป็น 2 ปาก ปากล่างมีขนาดใหญ่กว่า ปากล่างสีม่วงอ่อนหรือฟ้าอ่อน มีแถบสีเหลืองตรงกลางกลีบ ปากบนหดสั้น กลีบเลี้ยง มี 5 กลีบ<strong>ผล</strong>เป็นฝักกลมรี รูปไข่ ยาว 2-3 เซนติเมตร เปลือกสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ผิวเปลือกสีน้ำตาล ข้างในมีเมล็ดขนาดเล็ก 4 เมล็ด พบตามป่าชายเลน หรือดินเค็มแถบภาคอีสาน</p>
สภาพนิเวศ
กลางแจ้ง
ร่มรำไร
ร่ม
สภาพนิเวศวิทยา
<p>พบตามป่าชายเลนบริเวณน้ำกร่อย ป่าโกงกาง</p>
ถิ่นกำเนิด
<p>เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชียตามบริเวณป่าชายเลน หรือชายฝั่งแม่น้ำที่มีน้ำเค็มและน้ำกร่อย</p>
การกระจายพันธุ์
<p>เขตร้อนของทวีปเอเชีย เขตร้อนของออสเตรเลีย และแถบแปซิฟิก</p>
การปลูกและการขยายพันธุ์
<p>ปักชำกิ่ง</p>
ระยะเวลาการติดดอก
ระยะเวลาการติดผล
ประเภทการใช้ประโยชน์
อาหาร
สมุนไพร
พืชประดับ
พืชวัสดุ
พืชใช้เนื้อไม้
พืชให้ร่มเงา
พืชเศรษฐกิจ
<p>ใ<strong>บและต้น</strong> แก้ตกขาว โดยตำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง หรือน้ำมันงา ปั้นเป็นลูกกลอนรับประทาน</p><p><strong>ใบ</strong> ต้มกับน้ำดื่ม แก้นิ่วในไต ทั้งต้น 10 ส่วน เข้ากับพริกไทย 5 ส่วน ทำเป็นยาลูกกลอน แก้โรคกระเพาะ ขับเลือด เป็นยาอายุวัฒนะ</p><p><strong>ทั้งต้น</strong> ใช้รักษาแผลฝีหนอง รักษาโรคผิวหนังจำพวกพุพอง น้ำเหลืองเสีย ใช้ 3-4 ต้น หั่นเป็นชิ้น ต้มน้ำอาบหรือชะล้างบาดแผลเรื้อรัง และผื่นคันตามร่างกาย ต้มรับประทานแก้พิษฝีดาษ พิษฝีภายใน ตัดรากฝีทั้งปวง แก้โรคผิวหนัง </p><p><strong>ราก</strong> ใช้รากสด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้โรคงูสวัด</p>
หมายเหตุ
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิง
<p>ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2553. “เหงือกปลาหมอ.” [ระบบออนไลน์]. http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=130 (25 ตุลาคม 2559)</p><p>ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์. 2554. “เหงือกปลาหมอ.” [ระบบออนไลน์].<br />แหล่งที่มา http://www.qsbg.org/Database/Botanic_Book%20full%20option/search_page.asp (25 ตุลาคม 2559)</p><p>National Parks Board. 2013. “<em>Acanthus</em> <em>ebracteatus</em> Vahl.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://florafaunaweb.nparks.gov.sg/Special-Pages/plant-detail.aspx?id=1594 (25 ตุลาคม 2559)</p><p>The Plant List. 2013. “<em>Acanthus</em> <em>ebracteatus</em> Vahl<em>.</em>” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-2615237 (25 ตุลาคม 2559)</p>
แหล่งอ้างอิงการจำแนก
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิงการใช้ประโยชน์
<p>-</p>
สถานะของข้อมูล
แบบร่าง
กลับหน้ารายการพรรณไม้