Application name
รายการพรรณไม้
รายงาน
การตั้งค่า
แก้ไขข้อมูลพรรณไม้
รหัส
ชื่อวิทยาศาสตร์
<p><em>Amphineurion</em> <em>marginatum</em> (Roxb.) D.J.Middleton</p>
สกุล
สปีชีส์
Variety
Sub Variety
Form
ชื่อพ้อง / ชื่อดั้งเดิม
<p><em>Aganosma marginata </em>(Roxb.) G. Don</p><p><em>Aganosma</em> <em>euloba</em> Miq.</p><p><em>Aganosma</em> <em>macrocarpa</em> A.DC.</p><p><em>Aganosma</em> <em>velutina</em> A.DC.</p>
ชื่อไทย
ชื่อท้องถิ่น
ชื่อสามัญ
ชื่อวงศ์
ลักษณะวิสัย
ยังไม่ได้ระบุ
ไม้ล้มลุก
ไม้พุ่ม
ไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก
ไม้ยืนต้น ขนาดกลาง
ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่
ไม้เลื้อย
ไม้รอเลื้อย
ไม้อิงอาศัย
ไม้หัว
พืชอวบน้ำ
ปาล์ม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
<p><strong>ลำต้น</strong> ไม้เถาขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ทอดเลื้อยหรือเลื้อยพัน ทุกส่วนมีน้ำยางขาว</p><p><strong>ใบ</strong> ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียว ผิวมัน ออกเป็นคู่เรียงตรงข้าม รูปขอบขนาน กว้าง 1.5-2.5 ซม. ยาว</p><p>6.5-8.5 ซม. เส้นใบชัดเจน เชื่อมปิดที่ขอบใบ</p><p><strong>ดอก</strong> ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยสีขาว ขนาดผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. มีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงเวียนกัน</p><p><strong>ผล </strong>ผลเป็นฝักคู่เรียวกลม ยาว 30-50 ซม. เมล็ดสีน้ำตาล มีขนสีขาว ปลิวตามลมได้ดี</p>
สภาพนิเวศ
กลางแจ้ง
ร่มรำไร
ร่ม
สภาพนิเวศวิทยา
<p>ในประเทศไทยพบทั่วไปตามป่าผลัดใบ ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และชาย</p><p>ป่าดงดิบ ที่ระดับความสูง 800 ม. เหนือระดับทะเลปานกลาง</p>
ถิ่นกำเนิด
<p>เขตร้อนของเอเชีย จีน</p>
การกระจายพันธุ์
<p>พบตั้งแต่อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงฟิลิปปินส์</p>
การปลูกและการขยายพันธุ์
<p>ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง หรือใช้เมล็ด</p>
ระยะเวลาการติดดอก
ระยะเวลาการติดผล
ประเภทการใช้ประโยชน์
อาหาร
สมุนไพร
พืชประดับ
พืชวัสดุ
พืชใช้เนื้อไม้
พืชให้ร่มเงา
พืชเศรษฐกิจ
<p>นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับเพื่อความสวยงาม<strong> </strong></p><p><strong>เถา</strong> มีรสเฝื่อนฝาด ใช้ทาฝี แก้เมื่อยขบ แก้ผดผื่นคัน นำมาผสมกับผลมะตูมอ่อน เถาสิงโต และว่านมหากาฬ ต้มน้ำดื่มรักษาโรคเบาหวาน เข้ายารักษาประดง แก้พิษภายใน </p><p><strong>ราก</strong> ต้มดื่มแก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไตและตับพิการ บำรุงกำลังตอนฟื้นไข้ ช่วยเจริญอาหาร เป็นยาระบาย ขับระดู หรือผสมกับแก่นลั่นทม ต้มน้ำดื่ม เป็นยาระบาย </p><p><strong>ยอด</strong> ใช้แก้ท้องเสีย </p><p><strong>ใบ</strong> แก้เมื่อยขบ เข้ายาทารักษาฝี และริดสีดวงทวาร</p>
หมายเหตุ
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิง
<p>ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2553. “โมกเครือ.” [ระบบออนไลน์]. http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=269 (10 ธันวาคม 2559)</p><p>ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์. 2554. “โมกเครือ.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=933 (10 ธันวาคม 2559)</p><p>NParkFlora&Funna Web. 2013. “<em>Amphineurion</em> <em>marginatum</em> (Roxb.) D.J.Middleton.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://florafaunaweb.nparks.gov.sg/Special-Pages/plant-detail.aspx?id=7244 (10 ธันวาคม 2559)</p><p>The Plant List. 2013. “<em>Amphineurion marginatum </em>(Roxb.) D.J.Middleton.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-343529 (10 ธันวาคม 2559)</p>
แหล่งอ้างอิงการจำแนก
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิงการใช้ประโยชน์
<p>-</p>
สถานะของข้อมูล
แบบร่าง
กลับหน้ารายการพรรณไม้