Musa (AA) 'Landy'
Musa L.
-
Landy
-
-
ต้น: ลำต้นเทียมสูงประมาณ 4 เมตร เส้นผ่านศูณย์กลางลำต้นเทียมมากกว่า 15 ซม. สีของกาบลำต้นเทียมด้านนอกสีเขียว มีปื้นดำที่คอใบเล็กน้อย มีนวล กาบด้านในสีเขียวและมีปื้นแดง ลักษณะต้นอ่อนลำต้นสีเขียว
ใบ: ก้านใบเปิด ก้านใบสีเขียว มีครีบก้านใบสีชมพูอ่อน ลักษณะใบกว้างโค้งลง โคนใบข้างหนึ่งมนอีกข้างเรียว ตำแหน่งโคนใบทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
ปลีหรือดอก: ลักษณะลักษณะของใบประดับยาว ปลายใบประดับมนเล็กน้อย ม้วนงอขึ้น การเรียงของใบประดับเหลื่อมซ้อนกันชัดเจน ใบประดับด้านนอกสีน้ำตาลแดง ใบประดับด้านในสีแดงเข้มสม่ำเสมอโคนซีด ลักษณะทรงเครือและปลายก้านช่อดอกโค้งลง ดอกมีก้านดอกสั้น
ผล: ผลขนาดกลางยาวเรียว ปลายผลมีจุกเล็กน้อย จำนวนหวีต่อเครือประมาณ 6 หวี หวีหนึ่งมีประมาณ 16 – 18 ผล ผลดิบมีสีเขียว
-
ออสเตรเลีย
แถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
แยกหน่อ
ดหลุมขนาด 30x30x30 เซนติเมตร วางหน่อลงปลูกกลางหลุม กลบดินโดยรอบให้แน่น หลังปลูก 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จากนั้นให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน
ผลสุกนิยมใช้รับประทานเป็นผลไม้
ใบตอง ใช้สำหรับห่อขนม ห่อหมกทำอาหาร
กาบกล้วยใช้ทำเป็นเชือกรัดของ
ต้นกล้วยใช้ทำเป็นเยื่อกระดาษ
จัดอยู่ในกลุ่มกล้วยไข่ชนิดหนึ่ง
ศูนย์รวมฐานข้อมูลสิ่งมีชีวิตในไทย. 2556. “Musa X paradisiaca ‘Landy’.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.thaibiodiversity.org/Life/LifeDetail.aspx?LifeID=76010 (14 มิถุนายน 2560)
bananacenterkp. 2015. “กล้วยแลนดี้.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://bananacenterkp.weebly.com/35853621365736233618364936213609360436373657.html (14 มิถุนายน 2560)
puechkaset. “กล้วยไข่ ประโยชน์ และการปลูกกล้วยไข่.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://puechkaset.com/กล้วยไข่/ (14 มิถุนายน 2560)
มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ. 2552. 108 พันธุ์กล้วยไทย. บริษัทโรงพิมพ์กรุงเทพ (1984) จำกัด, กรุงเทพฯ. 268 น.
-
-
กลับหน้ารายการพรรณไม้ แก้ไขข้อมูล จัดการรูปภาพ พิมพ์ QR Code ของพืชนี้ ลบข้อมูลพรรณไม้นี้