Application name
รายการพรรณไม้
รายงาน
การตั้งค่า
แก้ไขข้อมูลพรรณไม้
รหัส
ชื่อวิทยาศาสตร์
<p><em>Musa</em> (ABB) 'Hin'</p>
สกุล
สปีชีส์
Variety
Sub Variety
Form
ชื่อพ้อง / ชื่อดั้งเดิม
<p>-</p>
ชื่อไทย
ชื่อท้องถิ่น
ชื่อสามัญ
ชื่อวงศ์
ลักษณะวิสัย
ยังไม่ได้ระบุ
ไม้ล้มลุก
ไม้พุ่ม
ไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก
ไม้ยืนต้น ขนาดกลาง
ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่
ไม้เลื้อย
ไม้รอเลื้อย
ไม้อิงอาศัย
ไม้หัว
พืชอวบน้ำ
ปาล์ม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
<p><strong>ต้น</strong> ลำต้นขนาดใหญ่<strong> </strong>สูง 3.5-5.0 ม. โคนต้นวัดโดยรอบประมาณ 70 ซม. กาบด้านนอกสีเขียวนวล</p><p><strong>ใบ</strong> ก้านใบค่อนข้างสั้น ร่องใบเปิด ใบกว้าง 40-50 ซม. ยาว 1.5 ม.</p><p><strong>ดอก</strong> ช่อดอกค่อนข้างป้อมสั้น รูปร่างคล้ายดอกบัวตูม ใบประดับด้านนอกสีแดงอมม่วง ด้านในสีแดง ใบไม่ม้วนงอ</p><p><strong>ผล</strong> เครือหนึ่ง มี 7-10 หวี หวีหนึ่ง มี 15-20 ผล ผลรูปห้าเหลี่ยมเปลือกหนา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 ซม. ยาว 8-12 ซม. ผลดิบสีเขียว เนื้อแข็ง เมื่อสุกสีเหลือง เนื้อสีขาวอมเหลืองถึงเหลือง แน่นแข็ง ไม่ยุ่ย ปลายจุกป้าน ผลเรียงเป็นระเบียบ</p>
สภาพนิเวศ
กลางแจ้ง
ร่มรำไร
ร่ม
สภาพนิเวศวิทยา
<p>พบขึ้นทั่วไปตามธรรมชาติที่เป็นบริเวณหินกรวด ริมฝั่งแม่นํ้าปัตตานี</p>
ถิ่นกำเนิด
<p>ประเทศไทย</p>
การกระจายพันธุ์
<p>เอเชียตะวันออกเฉียงใต้</p><p>ในประเทศไทยพบปลูกมากที่จ.ยะลา</p>
การปลูกและการขยายพันธุ์
<p>ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ</p>
ระยะเวลาการติดดอก
ระยะเวลาการติดผล
ประเภทการใช้ประโยชน์
อาหาร
สมุนไพร
พืชประดับ
พืชวัสดุ
พืชใช้เนื้อไม้
พืชให้ร่มเงา
พืชเศรษฐกิจ
<p>- ใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน ตั้งแต่รากจนถึงปลีและผล โดยเฉพาะผลมีรสชาติอร่อย แปรรูปได้หลายอย่าง<br />- ปลูกแซมในสวนยางและสวนผลไม้ เป็นร่มเงาได้ดีมาก ทำให้สวนผลไม้มีความชื้น ต้นไม้ผลที่เริ่มปลูกใหม่เจริญเติบโตได้ดีมากขึ้น</p><p><strong>ราก</strong> นำมาต้มดื่มแก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ผื่นคัน สมานภายใน<br /><strong>หยวกกล้วย </strong>เป็นอาหารที่ใช้ล้างทางเดินอาหาร หากนำมาเผาไฟรับประทานขับพยาธิ ส่วนน้ำคั้นจากต้น ใช้ทาป้องกันผมร่วง และทำให้ผมขึ้น<br /><strong>ใบตอง </strong>ปิ้งไฟปิดแผลจากไฟไหม้ ต้มอาบแก้เม็ดผื่นคัน น้ำจากก้านใบใช้เป็นยาฝาดสมาน รักษาโรคท้องเสีย แก้บิด<br /><strong>ผลดิบ </strong>ใช้เป็นยาฝาดสมาน แป้งกล้วยดิบใช้โรยแผลเรื้อรัง แผลเน่าเปื่อย แผลติดเชื้อต่างๆ แก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องขึ้นมีกรดมาก ส่วนผลสุกใช้เป็นยาระบาย<br /><strong>หัวปลี</strong> จิ้มน้ำพริกช่วยแก้โรคกระเพาะอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน</p>
หมายเหตุ
<p>กล้วยหิน พบครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2488 ที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยจะพบขึ้นทั่วไปตามธรรมชาติที่เป็นบริเวณหินกรวด ริมฝั่งแม่นํ้าปัตตานี ซึ่งกล้วยสายพันธุ์อื่นไม่สามารถจะขึ้นในพื้นที่แบบดังกล่าวได้ จึงถูกเรียกชื่อว่า “กล้วยหิน” เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน</p>
แหล่งอ้างอิง
<p>ไทยรัฐออนไลน์. 2558. ““กล้วยหิน” อร่อยแปรรูปปลูกคุ้ม.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/content/515118 (8 มิถุนายน 2560)</p><p>ระบบจัดการความรู้ การยางแห่งประเทศไทย. 2556. “กล้วยหิน (Kluai Hin).” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://km.rubber.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=7729:2013-09-06-03-56-58&catid=62:2011-06-03-09-13-28&Itemid=177 (8 มิถุนายน 2560)</p><p>มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ. 2552. 108 พันธุ์กล้วยไทย. บริษัทโรงพิมพ์กรุงเทพ (1984) จำกัด, กรุงเทพฯ. 268 น.</p>
แหล่งอ้างอิงการจำแนก
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิงการใช้ประโยชน์
<p>-</p>
สถานะของข้อมูล
แบบร่าง
กลับหน้ารายการพรรณไม้