Application name
รายการพรรณไม้
รายงาน
การตั้งค่า
แก้ไขข้อมูลพรรณไม้
รหัส
ชื่อวิทยาศาสตร์
<p><em>Bauhinia purpurea </em>L.</p>
สกุล
สปีชีส์
Variety
Sub Variety
Form
ชื่อพ้อง / ชื่อดั้งเดิม
<p><em>Bauhinia</em> <em>castrata</em> Blanco</p><p><em>Bauhinia</em> <em>coromandeliana</em> DC.</p><p><em>Bauhinia</em> <em>platyphylla</em> Zipp. ex Span.</p>
ชื่อไทย
ชื่อท้องถิ่น
ชื่อสามัญ
ชื่อวงศ์
ลักษณะวิสัย
ยังไม่ได้ระบุ
ไม้ล้มลุก
ไม้พุ่ม
ไม้ยืนต้น ขนาดเล็ก
ไม้ยืนต้น ขนาดกลาง
ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่
ไม้เลื้อย
ไม้รอเลื้อย
ไม้อิงอาศัย
ไม้หัว
พืชอวบน้ำ
ปาล์ม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
<p><strong>ลำต้น </strong>ไม้ต้นผลัดใบ เปลือกชั้นนอกสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ เปลือกไม่หลุดออก</p><p><strong>ใบ </strong>ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปร่างค่อนข้างกลม กว้าง 5-10 ซม. ยาว 5-15 ซม. โคนใบเว้า ปลายใบเว้าลึกเข้าประมาณครึ่งหนึ่งของแผ่นใบ ก้านใบยาว 3-5 ซม. ผิวใบเรียบลื่น มีไขนวลปกคลุม ใบสีเขียวอ่อน เส้นใบนูนเด่นออกที่โคนใบ 5-9 เส้น ขอบใบเรียบ</p><p><strong>ดอก </strong>ออกบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ลักษณะเป็นช่อ มีดอกย่อย 6-10 ดอก ดอกตูมรูปขอบขนานปลายแหลมมีสัน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อน ผิวมีขนนุ่มสีขาวปกคลุม กลีบเลี้ยงแยกออกเป็นสองปาก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบแยกกัน กลีบดอกกว้าง 1.6 ซม. ยาว 5 ซม. ดอกมีสีขาวถึงสีม่วงเข้ม ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นสีแดง ดอกบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 6-10 ซม. เกสรเพศผู้ 10 อัน เป็นเกสรที่สมบูรณ์ 3 อัน</p><p><strong>ผล </strong>เป็นฝักแบน กว้าง 1.5-2.5 ซม. ยาว 10-25 ซม. ผิวแข็งขรุขระ เมื่อแก่แห้งแตกเป็น 2 ซีก</p><p><strong>เมล็ด</strong> รูปกลมแบน สีดำ</p>
สภาพนิเวศ
กลางแจ้ง
ร่มรำไร
ร่ม
สภาพนิเวศวิทยา
<p>พบตามป่าเบญจพรรณทั่วทุกภาคของไทย โตช้า เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ระบายน้ำดี ความชื้นสูง แสงแดดจัด ปลูกริมทะเลได้</p>
ถิ่นกำเนิด
<p>ตอนใต้ของประเทศจีน (ซึ่งรวมถึงฮ่องกง) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้</p>
การกระจายพันธุ์
<p>ปากีสถาน อินเดีย สิกขิม ประเทศศรีลังกา พม่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีน</p>
การปลูกและการขยายพันธุ์
<p>ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ต้นจะออกดอกเมื่อมีอายุ 3-5 ปี</p>
ระยะเวลาการติดดอก
ระยะเวลาการติดผล
ประเภทการใช้ประโยชน์
อาหาร
สมุนไพร
พืชประดับ
พืชวัสดุ
พืชใช้เนื้อไม้
พืชให้ร่มเงา
พืชเศรษฐกิจ
<p><strong>ใบ </strong>มีรสเฝื่อน ต้มกินรักษาอาการไอ<br /><strong>ดอก </strong>มีรสเฝื่อน เป็นยาระบายดับพิษไข้<br /><strong>ราก </strong>มีรสเฝื่อน ต้มกินเป็นยาระบาย และระบายพิษไข้</p>
หมายเหตุ
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิง
<p>คณะกรรมการวิชาการดำเนินงานส่วนสวนสมุนไพรพืชสวนโลก. 2549. สวนสมุนไพรในงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549. Herbal Garden in Royal Flora Expo 2006. บริษัท สามเจริญพาณิชย์(กรุงเทพฯ) จำกัด. กรุงเทพมหานคร.</p><p>วชิรพงศ์ หวลบุตตา. 2542. ไม้ต้นประดับ เล่ม 1-2. พิมพ์ครั้งแรก. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. กรุงเทพมหานคร.</p><p>ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. 2555. พรรณไม้ในมหาวิทยาลัย<br />ราชภัฏเชียงราย. พิมพ์ครั้งที่ 1. เชียงใหม่ ดอคคิวเมนทารี ดีไซด์ จำกัด. เชียงใหม่. 315 น.</p><p>Flora of Pakistan. “Bauhinia purpurea.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.efloras.org/florataxon.aspx?flora_id=5&taxon_id=200011953 (24 กรกฎาคม 2560)</p><p>The Plant List. 2013. “<em>Bauhinia</em> <em>purpurea</em> L.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/ild-823 (24 กรกฎาคม 2560)</p><p>wikipedia. “<em>Phanera purpurea.</em>” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Phanera_purpurea (24 กรกฎาคม 2560)</p>
แหล่งอ้างอิงการจำแนก
<p>-</p>
แหล่งอ้างอิงการใช้ประโยชน์
<p>-</p>
สถานะของข้อมูล
แบบร่าง
กลับหน้ารายการพรรณไม้