Phyllanthus acidus (L.) Skeels
Phyllanthus L.
acidus
-
-
Averrhoa acida L.
Cicca acida (L.) Merr.
Cicca acidissima Blanco
Cicca nodiflora Lam.
Diasperus acidissimus (Blanco) Kuntze
ลำต้น ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 5-10 ม. ลำต้นเปลาตรงและแตกกิ่งก้านสาขาทึบบริเวณยอด กิ่งก้านเปราะหักง่าย เปลือกต้นขรุขระมีเท่าปนน้ำตาล
ใบ ไม่ผลัดใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ ระนาบเดียว บนกิ่งที่ยาวประมาณ 15-30 ซม. ดูคล้ายใบประกอบ แต่ละกิ่งมี 20-30 คู่ ใบรูปไข่ รูไข่แกมรูปหอก รูปขอบขนาน หรือค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยม ขนมเปียกปูน กว้าง 1.3-3.5 ซม. ยาว 2.5-7.5 ซม. ฐานใบมน ปลาบใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบ
ดอก ออกเป็นช่อ ตามกิ่ง ช่อดอกยาว 5-10 ซม. ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ดอกเพศผู้เกิดที่ปลายช่อ กลีบเลี้ยง 6 กลีบ แยกกัน ไม่มีกลีบดอก มีเกสรเพศผู้ 3 อัน ดอกเพศเมีย มีกลีบเลี้ยงสีชมพูแดง 6 กลีบ ฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยว
ผล รูปร่างกลมแบน มี 6-8 ร่อง เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 ซม. ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่เป็นสีเหลืองหรือขาวแกมเหลือง
เมล็ด เมล็ดภายในรูปร่างกลมและคอนข้างแข็งมีสีน้ำตาลอ่อนและมีจำนวน 1 เมล็ดผลจะอ่อนนุ่มเมื่อสุก
พื้นที่สูง 200-2,300 ม. จากระดับทะเลปานกลาง
Brazil
กัมพูชา อินเดีย มาเลเซีย พม่า เนปาล ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไทย อเมริกา
ปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด
ยอด ยอดอ่อนรับประทานเป็นผัก
ราก แก้ไข้ แก้โรคผิวหนัง แก้ประดง แก้เม็ดผื่นคัน ขับน้ำเหลืองให้แห้ง
ใบ แก้พิษคัน แก้พิษไข้หัว หัด และ อีสุกอีใส
ผล รักษาโรคมะเร็ง ช่วยชะลอวัยและความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยดับร้อนและปรับสมดุล ดับพิษเสมหะ ยาระบาย ยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงโลหิต
ผลแก่ มีรสเปรี้ยว รับประทานเป็นผลไม้ นำมาดอง หรือแช่อิ่ม
-
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. 2555. พรรณไม้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. พิมพ์ครั้งที่ 1. เชียงใหม่ ดอคคิวเมนทารี ดีไซด์ จำกัด. เชียงใหม่. 315 น.
ThaiHerbal.org. 2015. “มะยม.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://thaiherbal.org/1071 (29 ตุลาคม 2559)
The Plant List. 2013. “Phyllanthus acidus (L.) Skeels.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-153279 (29 ตุลาคม 2559)
The Royal Botanic Gardens,Kew science. “Phyllanthus acidus (L.) Skeels.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.plantsoftheworldonline.org/taxon/urn:lsid:ipni.org:names:194610-2 (29 ตุลาคม 2559)
-
-
กลับหน้ารายการพรรณไม้ แก้ไขข้อมูล จัดการรูปภาพ พิมพ์ QR Code ของพืชนี้ ลบข้อมูลพรรณไม้นี้